×
10 ปัจจัยในการเลือกโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุด

10 ปัจจัยในการเลือกโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุด 

หากคุณได้ทำความรู้จักกับ CFD และความแตกต่างและผลตอบแทนในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว สมาชิกที่ตัดสินใจแล้วว่าการลงทุนหรือการเทรด CFD ไม่ว่าจะเป็นการเทรด Forex, เทรดทอง, เทรดหุ้น เป็นตัวเลือกที่ดีของคุณในการหารายได้เสริม, รายได้หลัก หรือแม้กระทั่งเดินทางไปสู่ความมั่งคั่ง โจทย์ข้อต่อไปที่สำคัญของคุณก็คือการเลือกโบรกเกอร์ เนื่องจากในปัจจุบันโบรกเกอร์ที่มีอยู่ในไทยมากมาย มากกว่า 100 โบรกเกอร์ คุณอาจจะสับสนในการตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ว่าโบรกเกอร์ไหนดีที่สุด คุณจะเทรดกับโบรกเกอร์ไหนดี 

ทาง Forexsus.com มีการให้คะแนนโดยใช้ปัจจัย 10 อย่างด้านล่างนี้ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย มั่นคงของโบรกเกอร์มากกว่าด้านอื่นๆ เนื่องจากเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณมีสุขภาพการเงินที่ดี มั่นคง และเทรดได้กำไรอย่างยั่งยืน สม่ำเสมอ ซึ่งเราคิดว่าถ้าโบรกเกอร์ที่คุณจะเลือกใช้บริการมีปัจจัยด้านล่างนี้ครบ 10 ข้อ ก็ถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ดี


1. มีใบรับรองและใบอนุญาตที่น่าเชื่อถือ

มีหน่วยงานอิสระที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาต กำกับดูแล และบังคับใช้ข้อกำหนดทางกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตาม รวมไปถึงติดตามและดูแลการดำเนินงานของธุรกิจที่ให้บริการด้านการเงิน เช่น Cysec, FCA, FSA, FSC เป็นต้น โบรกเกอร์ที่ดีและน่าเชื่อถือจะต้องมีใบอนุญาตมาตรฐานจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้

2. มีรีวิวที่ดีจากเว็บไซต์ชั้นนำและโซเชียลมีเดีย

คุณสามารถ google ด้วยคำว่า “โบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือที่สุด”, โบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุด, วิธีการเลือกโบรกเกอร์ forex หรือแม้กระทั่งค้นหาด้วยชื่อของโบรกเกอร์ที่คุณสนใจ เช่น Exness ดีมั้ย, XM น่าเชื่อถือหรือไม่, FBS โกงหรือไม่ เป็นต้น คุณจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่ง forexsus.com แนะนำให้คุณดูข้อมูลจากหลายๆเว็บไซต์ประกอบกัน เนื่องจากบางเว็บไซต์ก็รับเพียงค่าโฆษณาจากโบรกเกอร์เล็กๆ รวมถึงการหาข้อมูลจากโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค (Facebook) , ติ๊กต๊อก Tiktok เพื่อดูข้อมูลจากคนที่ใช้จริงว่าเค้าประสบปัญหาอะไรหรือไม่ การหาข้อมูลจากชาวเน็ตก็ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาหรือหนีห่างจากโบรกเกอร์เถื่อนได้เช่นกัน

3. มีความมั่นคงทางการเงิน

คุณสามารถดูข้อมูลที่แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินได้จากหน้าเว็บไซต์หลักของแต่ละโบรกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณเทรดรวม, ปริมาณลูกค้า, งบการเงิน, เงินกองทุนของโบรกเกอร์ และข้อมูลเหล่านี้จะยิ่งน่าเชื่อถือเมื่อเป็นข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบจากบริษัทสอบบัญชีที่น่าเชื่อถือ Forexsus.com ทราบดีว่าความมั่นคงทางการเงินของโบรกเกอร์ก็คือความมั่นคงทางใจของเทรดเดอร์เช่นกัน ยิ่งมีความมั่นคง แสดงหลักฐานความมั่งคั่งได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นเท่านั้น

4. มีการฝากถอนที่รวดเร็ว

แน่นอนว่าเทรดเดอร์ที่เลือกการเทรด CFD, เทรด forex มีความต้องการเข้าถึงเงินทุนและการเทรดอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวน ดังนั้นการฝากถอนที่เร็วจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเป็น 1 ในคุณสมบัติของโบรกเกอร์ที่ดี นอกจากนี้การฝากถอนที่เร็วเป็นการสะท้อนถึงการมีระบบดำเนินงาน ระบบหลังบ้าน และที่สำคัญสะท้อนถึงปัจจัยในข้อ (3) นั่นก็คือความมั่นคงทางการเงินของโบรกเกอร์ได้เป็นอย่างดี

5. มีฝ่ายบริการลูกค้าไทย 24/7

ทำไมจึงจำเป็นต้องมีฝ่ายบริการลูกค้า หรือ customer service ตลอดเวลาทุกวัน 24 ชั่วโมง เหตุผลง่ายๆก็คือ การเทรด CFD สามารถเทรดได้ทุกวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อดีของการเทรด CFD ดังนั้นเมื่อเป็นสินทรัพย์ที่เราสามารถเทรดได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีคนคอยดูแล ซัพพอร์ต ตลอดเวลาเช่นกัน ในกรณีหาเกิดความขัดข้องไม่ว่าจะจากฝั่งโบรกเกอร์ หรือฝั่งเทรดเดอร์เอง จะได้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

6. มีสภาพคล่องสูง

สำหรับโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูงจะมีความสามารถในการจัดการคำสั่งซื้อขายของลูกค้าได้มากขึ้น รวดเร็วขึ้น จริงๆมีข้อถกเถียงมากมายสำหรับลักษณะดำเนินงานของโบรกเกอร์ว่าเป็นโบรกเกอร์ ABook หรือ BBook แบบไหนที่ดีกว่ากัน ทาง forexsus.com ขอสรุปว่าโบรกเกอร์ที่มีการดำเนินงานแบบ market maker เป็นวิธีที่ดีที่สุดของการเทรด CFD การเป็น market maker คือการมีสถานะเป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง การจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ได้จะต่างจากการทำ Abook หรือ Bbook เนื่องจากคุณจะต้องมีสภาพคล่องที่สูงมาก มีเทรดเดอร์จำนวนมาก ทำให้เกิดคำสั่งซื้อ และปริมาณเทรดจำนวนมากเพียงพอภายในโบรกเกอร์ โดยไม่จำเป็นต้องส่งต่อ เพราะการส่งต่อทำให้คุณเองก็ต้องไปเข้าคิวต่อในตลาดรวมกับเทรดเดอร์ต่างโบรกเกอร์ สถาบันอื่นๆ บวกกับโบรกเกอร์ที่เป็น market maker จะสามารถควบคุมต้นทุนการเทรด หรือสเปรดได้ดีกว่าด้วย

7. มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ

โดยปกติโบรกเกอร์จะมีความหลากหลายในด้านผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถเทรดได้อยู่แล้ว เช่น คู่เงิน (Forex), ทอง (XAU), คริปโต (cryptocurrency), น้ำมัน (usoil, ukoil), หุ้น, ดัชนี, หรือสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ (commodities) แต่ทั้งนี้ Forexsus.com อยากให้คุณพิจารณาความหลากหลายด้านอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นประเภทบัญชีที่หลากหลาย ตอบโจทย์เทรดเดอร์ได้หลายรูปแบบ เช่น มีบัญชีทดลอง (demo), บัญชี Cent เพื่อเริ่มต้นเทรด, บัญชีประเภทที่จ่ายเป็นแบบค่าคอมมิชชั่นสำหรับคนที่ชอบคำนวณต้นทุนแบบแน่นอน ไม่เคลื่อนไหวไปมาเหมือนค่าสเปรด, บัญชี Swap free เป็นต้น รวมไปถึงเรื่องของโปรแกรม โบนัสหรือสิทธิประโยชน์อื่น เช่น โปรแกรมพรีเมียร์ของ Exness, โปรแกรมโบนัสของ XM, โปรแกรมลอยัลตี้ของ FBS เป็นต้น

8. มีการคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้า

ต้องบอกก่อนนะคะว่า สำหรับประโยชน์ของลูกค้าที่ได้รับจากโบรกเกอร์ ที่ forexsus.com คำนึงถึงเป็นหลักไม่ใช่เรื่องของโบนัส หรือ gala dinner แต่เป็นเรื่องของเครื่องมือ, ความรู้, หรือแนวคิดที่ส่งเสริมต่อการเทรดที่มีกำไรสม่ำเสมอและยั่งยืนของลูกค้า เช่น บทวิเคราะห์ผ่านเว็บไซต์, แอปของโบรกเกอร์, การจัดอบรมออนไลน์และออฟไลน์, มีระบบป้องการ Stop out หรือ stop out protection (ความหมายง่ายๆคือ พอร์ตของคุณกำลังจะ Stop out แต่โบรกเกอร์ให้เงินต่อชีวิตคุณเพิ่มนั่นเอง) และรวมไปถึงการดำเนินงานแบบมีคุณธรรมจริยธรรม 

9. มีอัตราเลเวอเรจ (leverage) หลายระดับ

เทรดเดอร์ CFD หรือตลาด Forex รู้ดีกว่าตลาดนี้มีเสน่ห์ และเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายก็เพราะเลเวอเรจ ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า leverage คืออะไร เอาแบบง่ายๆ มันคือเครื่องทุ่นแรง แล้วเลเวอเรจจะมาช่วยทุ่นแรงเทรดเดอร์ยังไงกันนะ? อัตราเลเวอเรจหลายระดับจะดียังไง? อธิบายง่าย เช่น สมมติทอง 1 บาท = 35,000 บาท หากคุณต้องการซื้อทอง 5 บาท โดยที่คุณไม่มีเลเวอเรจ คุณจะต้องกำเงินไปเท่ากับจำนวนนั้น+ค่ากำเหน็จคือ 175,000 บาท แต่หากคุณใช้เลเวอเรจ เช่น ระดับ 1:200 คุณจะใช้เงินเพียง (35,000x5)/200=875 บาท เพื่อซื้อทอง 5 บาท แปลว่าถ้าราคาทองเพิ่มขึ้นบาทละ 1,000 บาทสำหรับทอง 5 บาทเมื่อคุณไม่ใช้ leverage คุณจะได้กำไร 5,000 บาทหรือประมาณ 3% หากคุณใช้เลเวอเรจ คุณจะมีกำไรประมาณ 18% (แต่อย่าลืมว่า ในขณะเดียวกันคุณก็ขาดทุนได้เช่นกัน) ดังนั้นการที่โบรกเกอร์ที่ระดับเลเวอเรจ คุณจะสามารถเทรดได้ตามเทคนิคของคุณง่ายขึ้น วางแผนและบริหารจัดการเงินทุนได้ดีขึ้น 

10. มีระยะเวลาดำเนินงานในประเทศไทยที่ยาวนานและชื่อเสียงที่ดี

ระยะเวลาการดำเนินงานของโบรกเกอร์ ปริมาณการเทรดและปริมาณลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนปัจจัยทุกข้อที่กล่าวมา เพราะมีผู้ที่เรียกตัวเองว่าโบรกเกอร์ แต่ที่จริงอาจจะเป็นมิจฉาชีพดีๆนี่เอง เปิดตัวมา ให้โปรโมชั่นมากมาย หากินกับความหวังของผู้อื่น เมื่อหลวมตัวฝากกันจำนวนหนึ่งก็ปิดตัวหายไป ถอนไม่ได้ ติดต่อไม่ได้ก็มี ดังนั้นหากคุณอยากใช้บริการกับโบรกเกอร์ที่เพิ่งทำการเปิดตัว หรือมาทำการตลาดในประเทศไทยนั้น คุณจะต้องพิจารณาเป็นอย่างดีและรอบคอบ forexsus.com ขอเน้นอีกครั้งว่าโบนัส, โปรโมชั่น, กาล่าดินเนอร์สุดหรู, เปิดตัวแบบอลังการ ฯลฯ ไม่ใช่สิ่งที่เรามองว่าเป็นปัจจัยของการเลือกโบรกเกอร์ เพราะความปลอดภัยทางการเงิน การเทรดแล้วได้กำไรอย่างสม่ำเสมอคือสิ่งที่เราหวังที่สุด


คุณสามารถติดต่อปรึกษาโบรกเกอร์ที่เราคิดว่าดีและปลอดภัยได้ทางไลน์ @forexsus หรือเยี่ยมชม https://bio.link/forexsus เพื่อพิจารณาใช้โบรกเกอร์ที่เราคัดสรรมาแล้วว่ามีคุณสมบัติครบทั้ง 10 ข้อนี้ 

และอย่าลืมสมัครเป็นสมาชิกเว็บเรานะคะ เพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับเงินคืน (rebate), การรับรางวัลประจำไตรมาส, การอ่านข่าวสาร, การรับสัญญาณเทรดผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ 


Comment List